Progressive Lens
คมชัดทุกระยะกับเลนส์โปรเกรสซีฟ
เลนส์โปรเกรสซีฟ ( Progressive Lens )
เลนส์โปรเกรสซีฟคือ ?
Progressive lens คือเลนส์ที่สามารถมองได้ชัดทุกระยะ ทั้งระยะใกล้ (Near zone) ระยะกลาง (Intermediate zone) และระยะไกล (Distance zone) ด้วยการออกแบบโครงสร้างเลนส์ให้กำลังของเลนส์เปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องตามค่าสายตาระยะไกลถึงระยะใกล้
"เลนส์ที่ไม่มีรอยต่อบนตัวเลนส์"
เลนส์โปรเกรสซีฟเป็นเลนส์ที่ไม่มีรอยต่อให้เห็นบนตัวเลนส์ ทำให้ช่วยลดปัญหาภาพกระโดดหรือ Image jump ระหว่างที่มองผ่านบริเวณที่มีค่ากำลังสายตาต่างกัน ทำให้การมองเห็นเป็นธรรมชาติ สบายตาในการมองแต่ละระยะ ทำให้ผู้สวมใส่หรือใช้งานเลนส์โปรเกรสซีฟไม่จำเป็นต้องเพ่งอีกต่อไป
เลนส์โปรเกรสซีฟ
เหมาะกับใคร ?
เมื่ออายุเริ่มเข้าสู่วัย 40 ปัญหาสายตาที่พบกันอย่างแพร่หลายคือ "สายตายาวตามอายุ" เนื่องจากการเสื่อมสภาพของเลนส์แก้วตา ทำให้การใช้งานในระยะใกล้ไม่ดีเท่าที่ควร จนเกิดการเปลี่ยนแปลงของระยะการมองใกล้ ทำให้เราต้อง "เพ่ง" มากกว่าที่เคยเป็น ตัวอย่างเช่น เวลาอ่านหนังสือหรือเล่นโทรศัพท์ในระยะปกติที่ใช้งานอยู่ประจำ เริ่มไม่ชัด ต้องยื่นหนังสือหรือโทรศัพท์ออกไปไกลจากระยเดิมมากขึ้น เมื่อเราต้องเพ่งมากๆทำให้เกิดการไม่สบายตา และอาจะเกิดการปวดหัวควบคู่กันไปด้วย
เลนส์โปรเกรสซีฟ เหมาะกับบุคคลที่มีปัญหาสายตายาวตามอายุ บุคคลที่ต้องการแว่นสำหรับมองชัดทุกระยะการมองทั้งระยะใกล้ ระยะกลาง และระยะไกล ในเลนส์ชิ้นเดียว และบุคคลที่ไม่ต้องการพกแว่นหลายตัว
"eyeshouse บ้านสุขภาพสายตา"
พร้อมดูแลสายตาของคุณอย่างดีที่สุด
การแก้ไขปัญหาสายตานั้นมีปัจจัยหลักคือพื้นฐานและโครงสร้างการออกแบบที่ดีของเลนส์ eyeshouse บ้านสุขภาพสายตาได้คัดสรรเลนส์ที่ดีที่สุด ที่ประกอบไปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีของเลนส์ เราจึงได้เลือกพาร์ทเนอร์กับแบรนด์เลนส์ชั้นนำที่ใช้โดยผู้คนทั่วโลกอย่าง RODENSTOCK, ESSILOR, HOYA, NIKON, และ ZEISS เพื่อให้คุณลูกค้าได้ทั่นใจว่าเลนส์ที่เราคัดสรรและแนะนำให้ลูกค้าทุกคู่นั้น คือมาตรฐานที่สูงที่สุดของเลนส์แว่นตา
"เทคโนโลยีการตรวจวัดสายตาล่าสุดจากเยอรมัน"
DNEye scanner เทคโนโลยีที่ดีที่สุดจาก Rodenstock สุดยอดเทคโนโลยีเพื่อการมองเห็น ตรวจวัดสายตาได้อย่างแม่นยำ ครบ จบ ในการวัดเพียงแค่ครั้งเดียว โดยใช้เทคโนโลยีขั้นสูงอย่าง Wave front ในการตรวจวัดและแสดงผลออกมา โดย DNEye สามารถหาค่าความเบี่ยงเบนระดับต่ำที่ทำให้เกิดความผิดปกติ (Low order aberration) คือ สายตาสั้น ยาว และเอียง และสามารถวัดความเบี่ยงเบนในระดับสูง (High order aberration) คือความผิดปกติของดวงตาที่อยู่ในระดับที่ละเอียดยิ่งขึ้น ที่เครื่องมือวัดสายตาที่มีอยู่ในปัจจุบันไม่สามารถวัดได้ โดยจะคำนวณจากขนาดของรูม่านตา(pupil) ที่เปลี่ยนไปในทุกสภาวะการมองและทุกสภาวะแสง ทำให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำและสามารถนำมาคำนวณเพื่อนำไปใช้ในการผลิตเลนส์ของ Rodenstock เพื่อให้การมองเห็นที่คมชัดที่สุดในทุกระยะและทุกสภาวะแสง และเป็นแว่นตาเฉพาะบุคคลอย่างแท้จริง